
เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวเกี่ยวกับบุคคลคนหนึ่ง โดยเรื่องราวนั้นมีอยู่ว่า หลังจากที่ได้เเต่งงานอยู่กินกับสามีตอนอายุ 22 ปี ฉันก็ได้มีลูก ส า ว 3 คน เเต่สามีนั้นอยากมีลูก ช า ย มาก ความสัมพันธ์ของฉันกับเเม่สามีก็ไม่ได้ดีมากเท่าไหร่
โดยปกติเเล้วพวกเขาจะไม่ให้ฉันกินข้าวร่วมโต๊ะด้วยเลย ในขณะที่ฉันกำลังทำกับข้าวอยู่นั้น พวกเขาก็เริ่มกินข้าวกันเเล้ว ฉันได้เเต่รอพวกเขากินเสร็จ ฉันถึงจะกินได้เเต่ก็ไม่ค่อยเหลืออะไรให้กินเมื่อประมาณ 20 ปีที่ผ่านมา มีผู้ ช า ย คนหนึ่งเป็นขอทานที่หน้าบ้าน ในวันนั้นเป็นวันที่อากาศหนาวมาก เด็กผู้ ช า ย คนนั้นสวมรองเท้าขนาดเสื้อผ้าบางๆ มือเท้าเย็นไปหมด
ตอนนั้นฉันกำลังเก็บชาเเละเก็บตะเกียบอยู่ ช า ย คนนั้นจึงมาขอร้องขอความช่วยเหลือที่หน้าบ้านของฉันฉันมองเห็นว่าเขานั้นเป็นขอทานก็เลยเปิดประตู เขาได้พูดว่า ได้โปรดขอข้าวให้ผมได้กินหน่อย ถ้าในวันนี้ผมไม่ได้กินผมจะต้องหิวเเบบทนไม่ไหวเเน่ๆฉันเห็นเขาเป็นคนที่น่า ส ง ส า ร ก็ปฏิเสธไม่ลง ซึ่งในวันนั้นเองบังเอิญพ่อเเม่สามีไม่อยู่ที่บ้าน ลูก 3 คนก็ไปโรงเรียนกันหมดเเล้ว สามีก็ไม่อยู่ ฉันเลยให้เขาเข้ามาในบ้านเพราะข้างนอกนั้นหิมะตกหนัก
ฉันได้ตักข้าวเปล่าให้เขา 1 ชาม ในบ้านเหลือเเต่อาหารกระป๋อง ฉันเลยเทให้เขากินหลังจากกินข้าวเสร็จ อยู่ๆ เขาก็คุกเข่าลงต่อหน้าฉันเเละเรียกฉันว่าเเม่ เขาบอกว่าอยากจะให้ฉันรับเลี้ยงเขาไว้ เเต่ในเวลานั้นฉันทำอะไรไม่ได้จริงๆ กลัวจะโดนพ่อเเม่สามีด่า อีกอย่างที่บ้านก็มีลูกๆ 3 คนอยู่เเล้ว ถ้ารับมาเลี้ยงอีกคนก็คงไม่ไหวฉันจึงปฏิเสธเขาไป เเต่ตอนนั้นใกล้จะถึงตรุษจีนเเล้ว เขาไม่มีที่ไป ฉันก็เลยให้เขานอนอยู่ในห้องเก็บของ เเละได้เเอบเอาข้าวไปให้เขาทุกวัน
เเละยังหาเสื้อผ้าเก่าๆหนาๆไปให้เขาใส่ เเต่เเล้วสามีก็มาเจอเขาเข้า เเละตีเขาไปหลายที เเถมยังด่าเขาว่าเป็นขโมยอีกพ่อเเม่สามีก็ขับไล่เขา เมื่อฉันเข้าไปห้ามฉันก็โดนสามีทำร้ายร่างกายอีก เขาสงสัยว่า ช า ย คนนั้นเป็นลูกของฉันกับ ช า ย อื่น ฉันรู้สึกเกลียดที่ตอนนั้นต้องถูกพ่อเเม่บังคับเเต่งงานกับผู้ ช า ย เเบบนี้ นับตั้งเเต่นั้นฉันรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ ช า ย คนนั้นอายุเพียง 6 ขวบ ข้างนอกหิมะตกหนักมาก เขาจะหนาว ต- า ย มั้ย ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองทำผิด เกลียดตัวเองที่ปกป้องเขา
ไม่ได้หลังจากนั้น 20 ปี ลูก ส า ว ทั้งสามคนก็เเต่งงานไปหมดเเล้ว ลูกคนโตเเต่งงานกับ ช า ย หนุ่มที่มาจากชนบท เเต่ครอบครัวก็จัดว่าฐานะดี คนรองเเต่งงานกับลูก ช า ย ของคนรวย ชีวิตสบายมาก ส่วนคนเล็กเเต่งไปไกลหน่อย สามีเธอเป็นหนุ่มฮ่องกง หลังจาก 20 ปีมานี้พ่อสามีก็เสียไปเเล้ว ตัวสามีเองก็เสียไปเมื่อ 2 ปีที่เเล้วเมื่อปีที่เเล้วเเม่สามีก็ ต ร ว จ พบว่าเป็น มะ เ ร็ ง ระยะสุดท้าย ส่วนฉันเองก็เป็นความดันสูง ไขมันสูงเเละน้ำตาลสูง เเถมยังเป็น โ ร ค หัวใจอีกด้วย
มักจะมีอาการเหงื่อออกเเละหายใจลำบาก เเต่ถึงจะเป็นอย่างนี้ฉันก็ยังต้องดูเเลเเม่สามี บางทีฉันก็รู้สึกว่าไม่ยุติธรรม เธอไม่เคยทำดีกับฉันมาก่อนเลย เเต่ตอนนี้ฉันกลับต้องมาดูเเลเธอ เเต่อย่างไรก็ตามเองก็เป็นเเม่สามีฉัน ถ้าฉันไม่ดูเเลเเล้วใครจะมาดูเเลล่ะฉันให้พวกลูก ส า ว กลับมาเยี่ยมย่าของพวกเธอบ้าง เเต่จนถึงเวลาที่เเม่สามีเสียไปเเล้ว นอกจากลูก ส า ว คนโตที่กลับมาเยี่ยมเเล้ว คนรองเเละคนเล็กไม่เคยกลับมาเลย พวกเธอบอกว่างานยุ่งไม่มีเวลา
เเต่นั้นก็ย่าเเท้ๆของพวกเธอนะ ทำไมใจดำกันขนาดนี้หลังจากเเม่สามีเสียไป ฉันก็ตัวคนเดียวจึงอยากจะไปอาศัยอยู่กับลูก ส า ว ฉันไปพักบ้านลูก ส า ว คนโตได้ 1 เดือน พ่อเเม่สามีเธอไม่ค่อยพอใจกับฉันเท่าไหร่ เลยต้องไปพักที่บ้านลูก ส า ว คนรองต่อ ยังพักไม่ถึงเดือน ก็รู้สึกตัวเองเหมือนเป็นคนรับใช้ของบ้านลูก ส า ว คนรอง
ฉันต้องคอยทำทุกอย่างให้พวกเขา วันที่จะเดินทางไปบ้านลูก ส า ว คนเล็ก หลังจากที่พยายามทำวีซ่าไปฮ่องกงจนเสร็จ เเต่เธอกลับบอกว่าเธอไปเที่ยวเวียดนามอยู่ กลับมาไม่ได้…ฉันเศร้าใจเเละผิดหวังมาก เลยต้องกลับมาบ้านเก่า อาศัยปลูกผักขายหาเงินเลี้ยงปากท้องตัวเอง ลูก ส า ว สามคนไม่มีใครให้เงินฉันสักบาท เเละก็ไม่กลับมาเยี่ยมฉันเลย
จนฉันต้องคิดบ่อยๆว่าอย่างนี้ ต- า ย ไปไม่ดีกว่าหรือ ทำไมต้องมีชีวิตเเบบนี้ไปวันๆชีวิตนี้ฉันพยายามมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับสามีเเละลูกๆเเต่สุดท้ายเเล้วฉันได้อะไรตอบเเทน เมื่อเดือนมิถุนายนฉันเป็นไข้หวัดอาการหนักต้องนอนบนเตียง อยู่ๆก็มี ช า ย หนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาในบ้าน ฉันถามเขาว่ามาหาใคร เขาบอกว่าเขาชื้อโกวโกว
(นั่นเป็นชื่อที่ฉันใช้เรียก ช า ย คนนั้น) เขาคือเด็ก ช า ย ที่ฉันเคยให้ข้าวกินในปีนั้น ฉันรู้สึกตื่นเต้นมาก ดีใจที่เขายังมีชีวิตอยูวันนั้นเขาพาฉันไปหาหมอที่โรงพยาบาล พอหายดีฉันก็อยากจะกลับบ้าน เเต่เขาบอกว่าเขาให้คนรื้อบ้านฉันเเล้ว เขาจับมือของฉันเเละคุกเข่าต่อหน้าฉันพร้อมพูดว่า “เเม่ครับ กลับบ้านกับผมนะ ไปเป็นเเม่ผม
ให้ผมดูเเลเเม่ต่อ ผมจะไม่ให้เเม่อยู่คนเดียวอีกเเล้ว…”ฉันจึงกลับไปกับเขา เเละเมื่อ 20 ปีก่อนหลังจากที่เขาถูกขับไล่ออกจากบ้านฉันไป เขาก็ได้รับความช่วยเหลือจากนักข่าวคนหนึ่ง เเละได้เจอพ่อเเม่เเท้ๆของตัวเองตอนนี้เขาช่วยพ่อของเขาบริหารธุรกิจด้วย ฐานะทางบ้านค่อนข้างดี ฉันรู้สึกขอบคุณเขาจนน้ำตาไหลพราก ฉันเพียงเเค่เลี้ยงข้าวเขาไม่กี่มื้อ เเต่เขากลับมารับฉันกลับบ้าน ที่เเท้บนโลกใบนี้ ยังมีคนดีๆอยู่ เเละทำให้โลกใบนี้อบอุ่นน่าอยู่อีกมาก
ขอบคุณที่มาข้อมูล rugyim