
ในสมัยที่ยังเป็น พ ร ะ หนุ่มนั้น “หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ” นิยมเดินธุดงค์และปลีกวิเวกอยู่ตามป่าเขาเถื่อนถ้ำต่างๆ แต่ครึ่งชีวิตหลังของท่านซึ่งยาวนานถึง ๔๓ ปี ท่านแทบไม่ได้ออกไปไหนเลย พำนักอยู่แต่ในวัดสะแก จังหวัด พ ร ะ นครศรีอยุธยา กิจวัตรประจำวันก็คือนั่งรับแขกหน้ากุฏิตั้งแต่เช้าจรดค่ำ
แม้จะชรามากแล้ว ท่านก็ไม่เคยทิ้งกิจวัตรดังกล่าว ทั้งนี้เพื่อช่วยคลายความทุกข์ของญาติโยมที่มาจากทุกสารทิศ หลายคนมาหาท่านเพื่อขอ ห ว ย เพราะอยาก ร ว ย ทางลัด จำนวนไม่น้อยอยากให้ท่านรดน้ำมนต์เป่าหัวจะได้หายจากความ เ จ็ บ ป่ ว ย ไม่มีใครที่ถูกท่านปฏิเสธ แต่ก็ใช่ว่าท่านจะสนองความต้องการของญาติโยมในทุกกรณีก็หาไม่ บางครั้งท่านก็ให้ของที่ดีกว่านั้น
คราวหนึ่งเกิดไฟไหม้ที่วัดสะแก บริเวณตรงข้ามกุฏิของหลวงปู่ถูกเ พ ลิ ง เ ผ า พิ น า ศ แต่กุฏิของท่านไม่เป็นอะไร เป็นที่น่า อั ศ จ ร ร ย์ ใจแก่ผู้คนทั่วไป โยมผู้หนึ่งเชื่อว่าหลวงปู่มี พ ร ะ ดีเป็นแน่จึงไปหาท่าน
“หลวงปู่ครับ… ผมขอ พ ร ะ ดีที่กันไฟได้หน่อยครับ” หลวงปู่ยิ้มก่อนตอบว่า “พุทธัง ธัมมัง สังฆัง ไตรสรณคมน์นี่แหละ พ ร ะ ดี” “ไม่ใช่ครับ ผมขอ พ ร ะ เป็นองค์ๆ อย่าง พ ร ะ สมเด็จน่ะครับ”
หลวงปู่กล่าวย้ำว่า “ก็พุทธัง ธัมมัง สังฆัง นี่แหละ มีแค่นี้ล่ะ … ภาวนาให้ดี” เป็นอันว่าหลวงปู่มิได้ให้อะไรเขา … เมื่อโยมผู้นั้นกลับไป หลวงปู่จึงได้ปรารภกับศิษย์ว่า “คนเรานี่ก็ แ ป ล ก … ข้าให้ของจริงกลับไม่เอา จะเอาของ ป ล อ ม ” ท่านเคยพูดถึง พ ร ะ เครื่องซึ่งใครๆ ก็อยากได้เพื่อบูชาว่า การนับถือ พ ร ะ เช่นนี้เป็นสิ่งที่ดี แต่เป็นดีภายนอก มิใช่ดีภายใน แล้วท่านก็แนะว่า “ให้หา พ ร ะ เก่าให้พบ… นี่สิของแท้…ของดีจริง”
เมื่อศิษย์ถามท่านว่า พ ร ะ เก่าหมายถึงอะไร หลวงปู่ตอบว่า “ก็หมายถึง พ ร ะ พุทธเจ้าน่ะซี นั่นท่านเป็น พ ร ะ เก่า พ ร ะ โบราณ พ ร ะ องค์แรกที่สุด”
ขอบคุณที่มาข้อมูล ทีนิวส์